posttoday

จับตา 10เทรนด์ไอทีปีระกา แรงกระเพื่อมเศรษฐกิจดิจิทัล

05 มกราคม 2560

ขึ้นศักราชใหม่กับ 10 เทรนด์ไอทีรอบตัวที่จะเกิดขึ้นในปี 2560

โดย...ทีมข่าวไอทีโพสต์ทูเดย์

ขึ้นศักราชใหม่ด้วยการเผย 10 เทรนด์ไอทีรอบตัวที่จะเกิดขึ้นในปี 2560 ในหลายแง่มุมที่ต่างก็มองว่าจะส่งผลถึงภาพธุรกิจโดยรวมให้มีความหลากหลายเพราะตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเหมือนว่าจะมีกระแสฟินเทคมาแรงจากการส่งเสริมของภาครัฐ ในขณะที่คลาวด์และบิ๊กดาต้ายังเป็นโอกาสใหญ่ของภาคธุรกิจที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

เทรนด์แรก แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดในอนาคตทั้งระดับองค์กรและระดับประเทศ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ภาครัฐยังต้องเน้นเรื่องคลาวด์บิ๊กดาต้า โซเชียลเน็ตเวิร์ก อุปกรณ์พกพา และอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์

จาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัย สายงานการศึกษาตลาดไคลเอนด์ ดีไวซ์ประจำไอดีซี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น หรือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจนั้น ต้องสอดคล้องกับมุมมองภาครัฐ เพราะจากนี้ไปเศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การลงทุนด้านไอทีจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี 2559 ที่ผ่านมาภาคธุรกิจมีการใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท คาดว่าในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นในเรื่องของดีไวซ์ รองลงมาคือบริการด้านไอทีอย่างคลาวด์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นคือ ไทยกำลังอยู่ในยุคของแพลตฟอร์มที่ 3 โดยเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มหลัก คือ คลาวด์ บิ๊กดาต้าโซเชียลมีเดียและโมบายทำให้จะเห็นบริการที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ออกมามากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่อาจส่งผลต่อการลงทุนคลาวด์และบิ๊กดาต้าคือ การออก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องจับตามองว่า ภาคธุรกิจจะเชื่อมั่นในนโยบายและหลักการของภาครัฐมากขึ้นหรือจะถอยออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน

เทรนด์ 2 การเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีในปี 2560 จะมาจากรถยนต์อัจฉริยะ ประกันภัยเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีสุขภาพส่วนบุคคล และอาคารอัจฉริยะ ที่มีการลงทุนมากถึง 7,000 ล้านบาท ต่อด้วยเทรนด์ 3 การปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยในธุรกิจเฮลท์แคร์ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยมากขึ้น อาทิ การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อสื่อสารกับคนไข้และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดีขึ้น รวมทั้งรองรับแนวโน้มประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต

สำหรับเทรนด์ 4 ไดเมนชั่น ดาต้า โดยคาดการณ์ว่าแนวโน้มไอทีปี 2560 ระบบอัจฉริยะจะผลักดันให้เกิดการคาดการณ์ของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เพราะองค์กรที่ลงทุนด้านไอทีไป9แล้วย่อมต้องการปกป้องข้อมูลระดับเมตาดาต้าที่เปรียบเสมือนข้อมูลสำคัญระดับล้ำค่าที่ช่วยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าได้ละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

เอเตียนน์ เรย์เนกเก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี กล่าวว่าดิจิทัลเป็นเรื่องของการสร้างโมเดลธุรกิจแบบยึดลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งการสื่อสารที่ประกอบด้วยระบบเครือข่าย คลังข้อมูล แอพพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะใช้งานผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่องค์กรมีอยู่หรือคลาวด์

ขณะที่ระบบไฮบริดไอซึ่งเป็นเทรนด์5 เป็นผลจากการที่อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์และการส่งข้อมูลผ่านข้อมูลจำนวนมหาศาลหรือบิ๊กดาต้า ทำให้เกิดการวิเคราะห์ผลรูปแบบพิเศษเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ทันสมัยและเกิดขึ้นได้จริง รวมทั้งเทคโนโลยีการจัดเก็บหรือคอนเทนเนอร์จะเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ระบบไฮบริดไอทีมีการใช้งานมากขึ้นในปี 2560

อย่างไรก็ตาม การใช้งานไอทีที่เพิ่มขึ้นย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย บริษัท เทรนด์ไมโคร ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านระบบรักษาความปลอดภัย เผยว่าภัยคุกคามทางโลกไซเบอร์นับเป็นเทรนด์ 6 หน่วยงานต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะจะมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และอินดัสเทรียล อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IIoT) ที่มีความเสี่ยงในการถูกโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมายมากขึ้น

เทรนด์ 7 การนำอุปกรณ์เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริง (Augmented Reality : AR) และความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality : VR) สินค้าต่างๆ นำอุปกรณ์ดังกล่าวมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เกิดอินเตอร์เฟสแบบ 360 องศาระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และเทรนด์ 8 เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพส่วนบุคคลอย่างสมาร์ทวอตช์ ที่จะเริ่มแพร่หลายสู่กลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น

ในส่วนของเทรนด์ 9 ธุรกิจทีวีจะหันมาให้บริการแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมเลือกชมคอนเทนต์ที่ตนเองต้องการมากขึ้น และการเลือกชมทุกที่ ทุกเวลา และปิดท้ายด้วยเทรนด์ 10 การสร้างวิดีโอคอนเทนต์จะมาแรง เพราะเป็นเครื่องมือการสื่อสารแบรนด์หรือสินค้าที่ส่งผลให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากกว่าใช้โลกโซเชียลมีเดีย

หลายองค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน ที่สำคัญคือไม่ว่าจะลงทุนมากเพียงใดก็ตาม ต้องนำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด