มนุษย์ผู้เป็นเจ้าของหมาและทาสแมวทั้งหลายเราคงเคยสงสัยว่าจริง ๆ แล้วน้องหมาน้องแมวมันกำลังคิดอะไรกันอยู่บ้างนะ แล้วพวกมันรักเราบ้างหรือเปล่า วันนี้มินิมอร์ขอเสนอผลการวิจัยที่จะบอกเราว่าพวกมันรักเรามากแค่ไหนกัน

dogsandcatslivingtogether.tumblr.com

ดร.Paul Zak ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความรู้สึกบอกเราว่าในตัวเราทุกคนมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า ออกซิโทซิน (oxytocin) เจ้าฮอร์โมนที่ว่านี้มีความพิเศษตรงที่มันคือฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพัน (ฟังดูโรแมนติกจัง) ฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกมาในขณะที่มนุษย์ผู้หญิงคลอดลูก หรือให้นมลูก ทำให้หลังจากที่กลายเป็นแม่แล้ว มนุษย์จะรู้สึกรักและผูกพันกับลูกโดยอัตโนมัติ รวมถึงเวลามีความรักกับใครสักคนหรือได้รับการโอบกอดด้วยนะ (อ่อ ผู้ชายก็มีฮอร์โมนนี้เหมือนกันนะ แต่อาจจะน้อยกว่าผู้หญิง)

1000cutethings.tumblr.com

ดร. Paul Zak เขาเลยทำการวิจัยกับหมาและแมวโดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นหมาและแมวอย่างละ 10 ตัวมาวัดระดับฮอร์โมนตัวนี้ในเลือด (หมากับแมวก็มีฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันกับเขาเหมือนกันแฮะ) พอวัดเสร็จก็จัดการปล่อยเจ้าหมาแมวไปหาเจ้าของของพวกมัน จัดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้ชื่นใจ ก่อนจะนำมาวัดระดับฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันนี้อีกครั้ง

getty image

ผลออกมาว่าฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันในตัวน้องหมาเพิ่มขึ้น 52.7% แหนะ ในขณะที่น้องแมวมีฮอร์โมนเพิ่ม 12 % (หมารักเจ้าของของมันมากกว่าแมวเกือบ 5 เท่าเลยแฮะ) แต่ทาสแมวคงพากันอมยิ้มแก้มปริไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีความเชื่อที่ว่าเจ้าเหมียวไม่มีความรู้สึกรักและผูกพันกับเจ้าของ เห็นเจ้าของเป็นเพียงทาสที่คอยเอาอาหารมาให้เท่านั้น (โถ ดีใจด้วนะทาสแมวทั้งหลาย)

แต่ที่ต้องอึ้งกว่าเดิมคือเวลาที่มนุษย์ตกหลุมรักกันและกันฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งเพิ่มขึ้น 40-60% ถ้าเทียบกันดี ๆ จะเห็นว่าหมารักเจ้าของยิ่งกว่าที่มนุษย์บางคนรักกันเสียอีก (สาวกน้องหมาคงปลื้มน่าดู)

อย่างไรก็ตามผลการวิจัยด้านฮอร์โมนก็เป็นเพียงการวัดระดับความรู้สึกทางหนึ่งเท่านั้น ความรักยังไงก็เป็นความรัก มนุษย์ย่อมมีวิธีแสดงความรักต่อกันที่หลากหลาย (ไม่ใช่แค่ฮอร์โมน) ก็อย่าลืมแสดงความรักกับคนรอบข้างรวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราให้มาก ๆ ล่ะ ไม่งั้นอายน้องหมาไม่รู้ด้วยนะ

ที่มา