เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 28 พ.ค. นางน้อย (นามสมมติ) ผู้ปกครองของน.ส.หนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และนางส้ม (นามสมมติ) ผู้ปกครองของ น.ส.สอง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี พร้อมด้วยนายสุรเดช หรือเอก หลวงแสง อายุ 38 ปี เข้าพบ ร.ต.อ.สมโภช สืบวงศกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนได้แจ้งความให้ดำเนินคดีนายสุรเดช ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ หลังก่อเหตุอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ

ผู้ปกครองของทั้งสองคน ให้การว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พาน.ส.หนึ่ง และน.ส.สอง เดินทางมาที่บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านเปี่ยมสุข ซอยวัดกู้ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากนายสุรเดชได้นัดให้มาฟิตติ้ง ถ่ายรูป และเรียนการแสดง เพื่อกำหนดบทบาทการแสดงของแต่ละคนในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์เลิฟทุ่งกุลา”

โดยใช้ห้องนอนชั้นสองเป็นสถานที่ทำการฟิตติ้ง โดยผู้ปกครองและเด็กที่จะเข้าฟิตติ้งนั่งรออยู่ชั้นล่าง เมื่อถึงคิวของน.ส.หนึ่ง นายสุรเดชได้พูดจาหว่านล้อมบอกให้ถอดเสื้อผ้า ก่อนใช้มือลูบคลำอวัยวะเพศ แต่พอเห็นว่าน.ส.หนึ่งมีประจำเดือน จึงได้บอกให้สวมเสื้อผ้าและให้ลงไปเรียกเพื่อนคิวถัดไปให้ขึ้นมา ซึ่งเป็นคิวของน.ส.สอง นายสุรเดชได้พูดจาหว่านล้อมให้ถอดเสื้อผ้าก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ไป 3 ครั้ง จากนั้นจึงปล่อยตัวน.ส.สองลงมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนเห็นว่าน.ส.หนึ่งกับน.ส.สอง มีอาการซึมเศร้าผิดสังเหตุ ไม่พูดคุยเหมือนตอนที่มาถึงใหม่ จึงสอบถามจนทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นายสุรเดชรับสารภาพว่า ตนวางแผนสร้างภาพยนต์เรื่อง “มนต์เลิฟทุ่งกุลา” เพื่อหารายได้นำไปสร้างพระมหาเจดีย์ที่วัดแห่งหนึ่งในจ.ร้อยเอ็ด และยอมรับว่าได้ลงมือล่วงละเมิดเด็กทั้งสองคนจริง แต่ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ เพียงแต่บอกกับน้องทั้งสองคนว่าถ้าคิดจะเป็นนักแสดงต้องแสดงได้ทุกบทบาท มันเป็นการแสดงเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวน.ส.หนึ่งกับน.ส.สองไปตรวจร่างกายเพื่อหาหลักฐานที่รพ.ชลประทาน ปากเกร็ด พร้อมแจ้งข้อหานายสุรเดชในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, พาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน18 ปีไปเพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน