แก้วิกฤต !! ‘เขื่อนอุบลรัตน์’ ระบายน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม.

               12 ต.ค. 60  เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้แทนจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร หนองบัวลำภู เข้าร่วมประชุม หลังจากจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนอุบลรัตน์ ว่า ปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน เกินความจุของเขื่อน และน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับกักเก็บเกือบ 1 เมตรแล้ว ขณะที่การประชุมเพื่อลงมติต้องใช้เวลานานจนเกือบถึงเวลา 19.30 น. จึงสามารถลงมติได้

 

 

               นายสันติ กล่าวว่า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งในส่วนของเหนือเขื่อนพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู และท้ายเขื่อนในพื้นที่ริมน้ำทั้งจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด จนถึงจังหวัดยโสธร ที่ประชุมมีมติให้ระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ระบาย 34 ล้าน ลบ.ม. เป็น 37 ล้าน ลบ.ม. ในเวลา 06.00 น. ของวันที่ 13 ต.ค. จากนั้นเวลาเดียวกัน วันที่ 14 ต.ค. ให้ระบายเพิ่มเป็น 40 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 15 ต.ค. ระบาย 43 ล้าน ลบ.ม. และวันที่ 16 ต.ค. ระบาย 45 ล้าน ลบ.ม. และจะคงไว้ที่ระดับ 45 ล้าน ลบ.ม. แต่ถ้าระดับความจุขยับถึง 183 ม. ก็จะประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง

               "ถ้าระบายน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม. น้ำพองน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร จากปัจจุบัน อาจจะกระทบประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อน เราพยายามให้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ก่อน เรียกได้ว่าให้เดือดร้อนน้อยที่สุด แต่ถ้าน้ำยังไหลเข้าต่อเนื่องจนเป็นอันตรายต่อเขื่อน ก็ต้องปล่อยมากขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นกับสถานการณ์ที่ต้องประเมินกันชั่วโมงต่อชั่วโมงในขณะนี้ ซึ่งจังหวัดเองนั้นต้องการให้ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์น้ำกันอย่างใกล้ชิด โดยดูได้ทางเว็บไซต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"

 

 

               รายงานแจ้งว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ มีน้ำไหลเข้าอ่างแล้ว 105.17 ล้าน ลบ.ม. ทำให้มีปริมาณน้ำ 2,718.47 ล้าน ลบ.ม. หรือระดับน้ำกักเก็บอยู่ที่ 182.71 ม. ซึ่งแนวโน้มน้ำไหลเข้ายังมีอย่างต่อเนื่องจากลำน้ำด้านเหนือ ทั้งน้ำเชิญ น้ำพรม น้ำพวย ลำพะเนียง และลำน้ำพองตอนบน ขณะที่การประเมินของทางเขื่อนเองนั้นคาดน้ำจะไหลเข้าจนเกินระดับ 183 ม. ภายใน 2 วัน และถ้ามีฝนมาเติมอาจจะสูงถึง จึงได้มีหนังสือขอระบายน้ำวันละ 68 ล้าน ลบ.ม. แต่มติที่ประชุมไม่เห็นด้วยเพราะเกรงว่าจะกระทบใต้เขื่อนอย่างรุนแรง จึงให้เพิ่มการระบายและคงไว้ที่ 45 ล้าน ลบ.ม. และเฝ้าระวัง ถ้ามีน้ำเติมเข้ามากเกินไปจนแตะ 183.5 ม. จึงจะมีมติให้ระบายเพิ่มตามความเหมาะสม โดยทางเขื่อนอุบลรัตน์ล่าสุดได้เปิดบานประตูระบายน้ำเพิ่มจาก 1.80 ม. เป็น 2.03 ม. แต่ยังคงเปิดประตูระบายน้ำแค่ 2 บาน จากทั้งหมด 4 บาน

               ขณะเดียวกัน ได้มีการแจ้งเตือนผ่านหน้าเพจกันอย่างแพร่หลายถึงระดับน้ำเขื่อนได้ล้นตลิ่งจนท่วมถนนเลียบเขื่อนเส้นทางเขื่อนไปอำเภอหนองเรือหลายจุด และมีระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะต้องมีการปิดเส้นทาง เพราะเกรงจะเกิดอันตรายได้